วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

น้ำมนต์ โดยพระธรรมกิตติวงศ์

ในบทสวดพระปริตรเจ็ดตำนาน หรือบทสวดสิบสองตำนาน มีอยู่บทหนึ่งที่สำคัญ คือบทรัตนปริตร หรือบทรัตนสูตร ด้วยหากจะทำพิธีเจริญน้ำพระพุทธมนต์ จะขาดบทนี้ไม่ได้ขั้นตอนการประกอบพิธีเจริญน้ำพระพุทธมนต์ พระภิกษุจะตั้งขันน้ำที่จะนำมาประกอบพิธีเจริญน้ำพระพุทธมนต์ในเขตบริเวณพิธี ล้อมรอบด้วยสายสิญจน์ จุดเทียน และสวดเจริญพระพุทธมนต์เมื่อสวดมาถึงบทรัตนสูตร ให้พระเถระที่เป็นประธานสงฆ์หยดเทียนน้ำมนต์ ในตอนเริ่มบทที่มีคำสวดขึ้นต้นว่า

"ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วายานิวะ อันตะลิกเข สัพเพวะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ..."

เมื่อจะดับเทียนน้ำพระพุทธมนต์ ให้ดับในท้ายบทรัตนสูตร มีคำสวดลงท้าย ดังนี้

"...ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วายานิวะ อันตะลิกเข, ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง สังฆังนะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุฯ"

บทรัตนสูตรเป็นบทที่ว่าด้วยอานุภาพแห่งรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์



ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล เมืองไพสาลี ประสบภัยพิบัติร้ายแรง ๓ ประการ คือ โรคระบาด อมนุษย์ และความฝืดเคืองเรื่องอาหารชาวเมืองไพสาลีนิมนต์พระพุทธเจ้า ให้มาช่วยปัดเป่าภัยพิบัติ

ครั้นเมื่อได้ตอบรับคำทูลเชิญและเสด็จไปเมืองไพสาลี ทรงตรัสเรียกพระอานนท์ ว่า "อานนท์ เธอจงเรียนเอารัตนสูตรนี้แล้วไปสวดในกำแพงเมือง"

พระอานนท์เถระเมื่อได้เรียนรัตนสูตรแล้ว ก็ถือบาตรน้ำมนต์ของพระพุทธองค์ ไปยืนอยู่ที่ประตูเมือง รำลึกถึงพระพุทธคุณ จากนั้นจึงประพรมน้ำมนต์ไปทั่วพระนครภัยทั้ง 3 ประการในเมืองไพสาลีก็อันตรธานไปอย่างรวดเร็ว ชาวเมืองที่กำลังเจ็บไข้ก็ทุเลา

คำว่า "น้ำมนต์" พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙) ราชบัณฑิต และเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ได้ให้ความหมายไว้ว่าน้ำมนต์ คือน้ำที่ผ่านพิธีน้ำมนต์มาแล้ว น้ำที่เสกเพื่ออาบ กิน หรือประพรม เป็นต้น ใช้ว่าน้ำมนตร์ ก็มี น้ำมนต์ ปกติจะสำเร็จด้วยการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ในงานพิธีมงคลต่างๆ หรือการเสกของพระภิกษุหรือคฤหัสถ์ผู้ทรงวิทยาคุณ กล่าวคือผ่านการทำสมาธิที่แน่วแน่และพระปริตที่เป็นมนต์ทางศาสนามาแล้ว น้ำมนต์ นิยมนำมาอาบ ดื่ม หรือประพรมที่ศีรษะ ภายในบ้าน บริเวณบ้าน ป้ายร้านค้า เป็นต้น โดยนับถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นน้ำสิริมงคล นำความสวัสดีมีโชคมาให้ ตลอดถึงกำจัดปัดเป่าอัปมงคล อันตราย ภัยพิบัติต่างๆ ได้



น้ำมนต์ เมื่อเวลาเรารู้สึกดวงไม่ดี มีเคราะห์ หรือเจ็บป่วย นำพระกริ่งปวเรศ หรือพระกริ่ง (องค์แทนพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภาสพุทธเจ้า) อาราธนาบารมีของพระองค์ท่านทำน้ำพระพุทธมนต์ ดื่ม รด อาบ กินเพื่อความสวัสดี มีชัยปราศจากโรคภัยและเคราะ

ที่มาบทความจาก : คมชัดลึก

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

นกถึดทือตำหรับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

นกถึดทือ เป็นนกเค้าแมวขนาดใหญ่ ลำตัวยาวประมาณ ๕๕ เซนติเมตร หนักประมาณ ๒-๒.๕ กิโลกรัม ตัวผู้เล็กกว่าตัวเมียเล็กน้อย ลำตัวใหญ่คล้ายนกเค้าใหญ่ แต่แข้งเปลือยไม่มีขนปกคลุม สีเหลืองแกมเขียว ปากเทาแกมเขียว ตาเหลือง หัวและกระหม่อมมีลายขีดสีเข้ม ลำตัวด้านบนน้ำตาลเข้มแกมเทาเล็กน้อย ลำตัวด้านล่างน้ำตาลแกมส้ม มีลายขีดบางๆ จากแกนขนสีดำและมีลายขวางบางๆ จากลายขนสีคล้ำ คอแกมขาว หน้าผากและโคนปากไม่มีขนสีขาว เสียงร้องทุ้มต่ำดัง "ฮูป-ฮูป-ฮู" สองเพศมีลักษณะคล้ายกัน

ในการจัดสร้างเครื่องราง นกถึดทือ เจ้ามือวิ่งหนี หรือ นกถึดทือ กระพือเรียกลาภา จัดเป็นเครื่องรางที่แทบจะกลายเป็นตำนาน เจ้าตำรับคือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อาจารย์ของกรมหลวงชุมพรฯ

มีเรื่องเล่ากันว่า สมัยก่อนหลวงปู่ศุข มาพักที่วังนางเลิ้งของเสด็จในกรม พอเสด็จในกรม และพระชายา เข้าไปกราบแล้ว ก็เหลือบรรดานายทหาร และคนรับใช้ประจำวัง เข้าไปกราบ หลายคนขอพระเครื่อง ตะกรุดสารพัด แต่อีกหลายคนติดเบี้ยบ่อน มาขอของดีหลวงปู่ศุข ไปแก้มือ ไปล้างแค้นเจ้ามือ ท่านจะไม่ให้พระ แต่จะเขียนยันต์นกถึดทือให้ไป ปรากฏว่า เจ้ามือทั้งนางเลิ้ง พระนคร สี่กั๊ก ยันเสาชิงช้า ต้องปิดบ่อนหนีบรรดาศิษย์นกถึดทือหมด แก้มือสำเร็จ ร่ำรวยไปตามๆ กัน จนเจ้ามือขยาด ถ้ารู้ว่าเป็นพวกนกถึดทือ จากวังนางเลิ้ง จะไม่รับเข้าไปเล่น

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าตำนานเก่า ยืนยันว่า วิชาดี มีอยู่จริง เป็นของเล่นอริยะ ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ เป็นเพียงเศษฝุ่นติดเท้าหลวงปู่ศุขท่านเท่านั้น ถามว่าวิชานี้มีประโยชน์อะไร ตอบว่า พระโบราณต้องมีไว้ เพราะสมัยก่อน คนติดบ่อน ติดฝิ่น มีมาก เอาเงินเอาเบี้ยไปประเคนเจ้ามือหมด เจ้ามือก็รีดไถคนจนๆ วิชานี้ ไว้ปราบเจ้ามือขี้โกง ไว้ปราบเศรษฐีเห็นแก่ได้ เพราะบรรดาเบี้ย บ่อนสมัยก่อน ก็ล้วนเสาะหาอาจารย์ดี วิชาดี เพื่อเรียกลูกค้า ให้มาเสียเงินให้มากๆ เหมือนกัน วิชานกถึดทือ ของหลวงปู่ศุข จึงเป็นวิชาเสี่ยงโชค โชคลาภ แก้เผ็ด คล้ายย้อนรอย หนามยอกเอาหนามบ่ง ชนะอาจารย์ และวิชาประจำบ่อนเบี้ยทั้งหมด

ปัจจุบัน คนหาเช้ากินค่ำกันมาก บางคนชอบเสี่ยงโชค บางคนชอบเล่น ชอบพนัน ซ้ำบ่อนพนันถูกกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้านมีมากมาย หลายคนหอบเงินแสนเงินล้านไปเสี่ยงโชค และเสียมากกว่าได้ เพราะบ่อนเหล่านี้ก็เสาะหาอาจารย์ดี วิชาดี ที่จะเรียกคนเรียกเงินเข้ามาเหมือนกัน เห็นที นักเล่น นักปราบเจ้ามือ ต้องนำนกถึดทือ ไปปราบเจ้ามือ ให้รู้จักหลาบจำเสียบ้างแล้ว

นกถึดทือ หลวงพ่อชู วัดทัพชุมพล
นกถึดทือ เป็นเครื่องรางอีกชนิดหนึ่งที่หลวงพ่อชู เตชธมฺโม วัดทัพชุมพล สร้างและปลุกเสกขึ้นมาตามศาสตร์วิชาตำราที่ตกทอดมาจากสายวิชาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ทั้งนี้หลวงพ่อชูได้จารอักขระยันต์ตัว “กิ” ที่ใต้ฐานนกถึดทือไว้ และนั้นก็คือยันต์หัวใจพญานกถึดทือเวลาจะบูชาให้ภาวนาว่า “กิ ปิ พิ คิ” ท่านที่สนใจเช่าบูชา วัตถุมงคล หลวงพ่อชู วัดทัพชุมพล สามารถเช่าบูชาได้ที่เว็บไซต์ www.AmuletAsia.com 

อย่างไรก็ตามมีคติความเชื่อว่า การภาวนาว่า “กิ ปิ พิ คิ” ถือว่าเป็นสุดยอดแห่งความเมตตา ดีเหลือจะพรรณนาทางการเสี่ยงโชค เรียกว่า แรงจริงเรื่องโชคลาภ ดีทางขยันทำมาหากิน เป็นเมตตามหานิยม เมตตามหาเสน่ห์ เรียกทรัพย์ รับโชคลาภ อธิษฐานจิตได้ดั่งใจ อีกทั้งป้องกันคุ้มภัย ป้องกันคุณไสย คุณผี คุณคน ได้อย่างยอดเยี่ยม

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

สักการะพระพุทธรูป ปางแปลกตา รับสงกรานต์


นายจรัญ ผู้พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำนักงานเขตภาษีเจริญ ร่วมกับ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค จัดงานฉลองสงกรานต์ ครั้งยิ่งใหญ่เสริมสิริมงคล ต้อนรับปีใหม่ไทย สนับสนุนให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัว ได้มีเวลาอยู่ร่วมกันให้มากขึ้น พร้อมร่วมอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่ โดยได้อัญเชิญ “พระพุทธรูปปางแปลกตา” ที่หาชมได้ยาก มาให้ชาวกรุงเทพฯ ได้สักการบูชา ขอพร และเสริมสิริมงคล ตลอด ๕ วันในช่วงวันสงกรานต์
   
               “พระพุทธรูปปางแปลกตา” ทั้ง ๙ องค์นี้มีประวัติอันยาวนานที่น่าสนใจ เป็นพระพุทธรูปที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปปางต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยกำหนดตามพระพุทธลักษณะได้ ๓ อย่าง คือ พระพุทธลักษณะยืน นั่ง และนอน จัดเข้าในพุทธจริยา ๓ ประการ คือ “พุทธจริยา” ขณะที่ทรงบำเพ็ญเพียร นับตั้งแต่เสด็จออกผนวช ถึงตรัสรู้ อันเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่พระองค์ เรียกว่า “อัตถจริยา

               ส่วนพุทธจริยาที่ทรงบำเพ็ญเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่พระประยูรญาติ เรียกว่า “ญาตัตถจริยา” และพุทธจริยาที่ทรงบำเพ็ญเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชนทั่วไป เรียกว่า “โลกัตถจริยา” โดยอัญเชิญพระพุทธรูปปางแปลกตา มาให้ประชาชนได้ร่วมสักการบูชา ๙ ปาง คือ



               ๑.ปางประสานบาตร ๒.ปางภัตกิจ ๓.ปางรับอุทกัง ๔.ปางประทานอภัย หรือปางห้ามญาติ หรือ ปางโปรดสัตว์ ๕.ปางปลงกรรมฐาน หรือปางชักผ้าบังสุกุล ๖.ปางปฐมบัญญัติ ๗.ปางสนเข็ม ๘.ปางพระเกศธาตุ และ ๙.ปางโปรดพกาพรหม

               นอกจากการได้สักการบูชาพระพุทธรูปปางแปลกตา ๙ องค์ แล้วยังมีกิจกรรมบันเทิงสนุกสนานครื้นเครงกับกลองยาวและการละเล่นพื้นบ้าน รวมทั้งเลือกซื้อสินค้าศิลปหัตถกรรม และอิ่มอร่อยกับอาหารคาว-หวานเลื่องชื่อ โดยงานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๒-๑๖ เมษายนนี้ เวลา  ๑๐.๓๐-๒๑.๐๐ น. ณ บริเวณชั้น ๑ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค
           
               ขณะเดียวกันที่ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ ก็มีการจัดงาน “สงกรานต์ ลานบุญ” โดยลูกค้าและประชาชนจะได้ร่วมสรงน้ำพระพุทธรูปชื่อดังประจำภาค  อาทิ พระแก้วมรกต (ภาคกลาง ), พระพุทธชินราช (ภาคเหนือ), หลวงพ่อโสธร (ภาคตะวันออก), หลวงพ่อพระใส (ภาคอีสาน) และพระพุทธสิหิงค์ (ภาคใต้) พร้อมกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยพื้นบ้าน ๔ ภาค และการบรรเลงดนตรีไทย ๔ ภาค ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๖ เมษายน เช่นกัน

               ติดต่อสอบถามโทร.๐-๒๗๒๑-๘๘๘๘ ต่อ ๓๓-๓๔ หรือที่โทร ๐๘-๙๑๗๖-๑๓๘๗, ๐๘-๑๗๑๓-๔๔๙๖

วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556

หลวงปู่เช้าศิษย์หลวงปู่ศุข

'เหรียญมหาเศรษฐี'หลวงปู่เช้าศิษย์สายพุทธาคม'หลวงปู่ศุข' : เส้นทางบุญ โดยบุญนำพา

หลวงปู่เช้า อตตฺจิตโต วัดห้วยลำใย อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ปัจจุบันอายุ ๙๐ ปี ท่านเป็นศิษย์สายพุทธาคม “หลวงปู่ศุข” วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยอุปสมบท และศึกษาพุทธมนต์จาก พระใบฎีกา บุญยัง วัดหนองน้อย ซึ่งเป็นพระปลัดซ้ายของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า นอกจากนี้ หลวงปู่เช้า ยังได้ฝากตัวเรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อีกท่านหนึ่งด้วย

หลวงปู่เช้า วัดห้วยลำใย
หลวงปู่เช้า วัดห้วยลำใย นครสวรรค์
เนื่องในโอกาสที่หลวงปู่เช้า วัดห้วยลำใย เจริญอายุครบ ๙๐ ปี เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา ท่านดำริให้สร้างเหรียญมหาเศรษฐี เพื่อเป็นที่ระลึก โดยปรารภว่า “ทำเหรียญเศรษฐีมั่งมีทรัพย์ มีเงิน มีทองนับไม่หวาดไหว ให้ซื้อง่ายขายดี มีกำไร คิดสิ่งใด สมปรารถนา สถาพร”

เหรียญมหาเศรษฐี หลวงปู่เช้า เป็นเหรียญรูปไข่ รูปหลวงปู่ครึ่งองค์ แกะแม่พิมพ์ได้เหมือนกับหลวงปู่มาก ด้านหลังเป็นยันต์ “เรือสำเภาไปค้า” อันเป็นยันต์ที่ “หลวงพ่ออ๋อย” วัดไทร บางขุนเทียน พระเกจิอาจารย์ยุคเก่า ได้ลงไว้ในเหรียญรุ่นแรกของท่าน ได้สร้างเศรษฐีฝั่งธนฯ มาแล้วนับไม่ถ้วน โดยโบราณาจารย์เชื่อกันว่า ยันต์นี้ปลุกเสกให้ดีจะร่ำรวย เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี ชั่วลูกชั่วหลาน

ปัจจุบัน เจ้าสัวใหญ่ เศรษฐีร้อยล้าน พันล้าน ต่างมีความเชื่อเรื่องพลังแห่งโภคทรัพย์ของเรือสำเภา ที่จะนำพาทรัพย์สินเงินทองเข้ามาให้อย่างต่อเนื่อง เหรียญมหาเศรษฐี หลังยันต์เรือสำเภา ของหลวงปู่เช้า จึงน่าเสาะแสวงหา เพื่อต่อยอดธุรกิจ การค้าให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองสมกับชื่อเหรียญมหาเศรษฐีเป็นที่สุด หลวงปู่ได้ทำพิธีอธิษฐานจิตเดี่ยวทุกวัน โดยปิดท้ายเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ อันเป็นวันครบรอบชาติกาล ๙๐ ปีของท่าน ณ วัดห้วยลำไย โดยมีจำนวนสร้าง คือ เหรียญเนื้อทองคำ ๑๙ เหรียญ, เนื้อเงิน ๓๙๙ เหรียญ, เนื้อนวโลหะ หน้ากากเงิน ๓๙๙ เหรียญ, เนื้อนวโลหะ ๙๙๙ เหรียญ, เนื้ออัลปาก้า ๑,๙๙๙ เหรียญ และเนื้อทองแดง ๒,๙๙๙ เหรียญ ทุกเหรียญตอกโค้ด และหมายเลข ติดต่อทำบุญบูชาได้ที่ วัดห้วยลำใย โทร.๐๘-๐๗๘๒-๑๒๘๐, นิตยสารพระเกจิ โทร.๐-๒๔๓๔-๖๑๘๙